ไร่สวนสุวรรณ์
สาระเกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์
ปุ๋ยอินทรีย์
ปุ๋ยทางใบ
มันสำปะหลัง
ผลผลิตทางการเกษตร
อีเอ็มการใช้ปุ๋ยชีวภาพเบื้องต้น
วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์
Board
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
Satellite image
Contact
รับจ้างเพาะเมล็ดพันธุ์
อีเอ็มการใช้ปุ๋ยชีวภาพเบื้องต้น

อีเอ็มการใช้ปุ๋ยชีวภาพเบื้องต้น

 

                EM (Effective Microorganism) คือจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพโดยการรวมเอาจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพจากธรรมชาติ ประกอบด้วยจุลินทรีย์ทั้งหมด 5 แฟมิลี่ 10 จีนัส 80 สปิชี่ โดย ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิงะ ผู้เชี่ยวชาญสาขาพืชสวนจากมหาวิทยาลัยริวกิวประเทศญี่ปุ่น สามารถค้นพบการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ชอบอากาศ (Aerobic bacteria) และจุลินทรีย์กลุ่มที่ไม่ชอบอากาศ (Amaerobic bacteria) โดยได้เลือกจุลินทรีย์ที่ตรึงไนโตเจนในอากาศได้ (Azoto bacter) และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosythertic bacteria) จุลินทรีย์ 2 กลุ่มนี้สามารถอยู่รวมกันได้เพราะต่างก็อาศัยด้วยการแลกอาหารซึ่งกันและกัน

                พื้นฐานการใช้จุลินทรีย์อีเอ็มแบบน้ำ

                1. การขยายอีเอ็มเพื่อใช้ทันที เตรียมขยายอีเอ็มในอัตราส่วนอีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด (1/1/1,000)

                                วัสดุ

                                อีเอ็ม 1 ซีซี หรือ 1 ช้อนโต๊ะ

                                กากน้ำตาล 1 ซีซี หรือ 1 ช้อนโต๊ะ

                                น้ำสะอาด 1 ลิตร หรือ 10 ลิตร

                2. การขยายเพื่อใช้กับการปลูกพืช

                                2.1 เตรียมภาชนะที่สะอาด เช่น ปิ๊บขนาด 20 ลิตร บรรจุน้ำสะอาดเต็มปิ๊บ เติมอีเอ็ม 2 ช้อนโต๊ะ กากน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ (อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด 1/1/1,000) ผสมส่วนให้เข้ากันแล้วสามารถใช้ได้ทันที เช่น ใช้ในการทำโบกาฉิในปุ๋ยหมักในสูตรต่างๆ ทุกครั้งที่ใช้อีเอ็มจะต้องขยายก่อนดังนี้ทุกครั้งไปใช้ฉีดพ่นรดพืชผัก ไม้ดอก ไม้ประดับ ฯลฯ เดือนละ 2 ครั้ง ขยายฉีดพ่นข้าวเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับไม้ผลขยายอีเอ็มฉีดพ่นเดือนละ 1 ครั้ง งดการฉีดพ่นในระยะไม้ผลออกดอก การใช้อีเอ็มเพื่อใช้กับสัตว์เลี้ยงใช้อีเอ็มขยายให้กับสัตว์เลี้ยงกิน อีเอ็ม/น้ำสะอาดอัตราส่วน 1/5,000-10,000

                                2.2 เตรียมน้ำสะอาดใส่ภาชนะขนาด 5 ลิตร แล้วหยดอีเอ็มลงใส่ 1 ซีซี หรือขนาดภาชนะใส่น้ำสะอาดถัง 200 ลิตร เติมอีเอ็มลง 4-10 ช้อนโต๊ะ เอาน้ำที่มีอีเอ็มไปให้สัตว์เลี้ยงจะไม่ส่งกลิ่นเหม็น และมูลของสัตว์เลี้ยงที่กินอีเอ็มมีคุณสมบัติเหมือนโบกาฉินำไปใช้กับการปลูกพืชทุกชนิดเป็นพืชผักที่มีคุณภาพเจริญเติบโตได้เร็วดีเป็นพิเศษ แตกต่างจากมูลสัตว์ธรรมดาโดยทั่วๆ ไป การใช้อีเอ็มแก่สัตว์เลี้ยงกินห้ามผสมกากน้ำตาล เพราะถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงกินไม่หมด เมื่อเกินระยะเวลา 3 วัน จะเป็นผลเสียแก่สัตว์เลี้ยงได้

                                2.3 ขยายอีเอ็มเพื่อฉีดพ่นหรือล้างคอก เพื่อขจัดกลิ่นเน่าเหม็นให้หมดไป เช่น คอกสุกร ขยายอีเอ็มในอัตราส่วน อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด (1/1/1,000) น้ำอีเอ็มที่ขยายฉีดพ่นอย่าใช้ให้หมดเหลือไว้ประมาณ 1/4 ของภาชนะ เติมน้ำลงไปอีกจนเต็มภาชนะอันเดิมแล้วเติมกากน้ำตาลลงอีกเท่ากับที่ใส่ลงครั้งแรกการขยายของอีเอ็มจะเกิดขึ้นอีกครั้งหมักต่อไว้อีก 1-3 วัน นำน้ำไปฉีดพ่นล้างออก เพื่อดับกลิ่นให้หายไปได้อย่างประหยัดภาชนะที่ใช้หมักต้องสะอาด น้ำที่ใช้ต้องสะอาด มีฝาปิด เช่น การหมักขยายใส่ภาชนะขนาด 200 ลิตร เติมอีเอ็ม 20 ช้อนโต๊ะ ควรหมักขยายต่อเชื้ออย่างต่อเนื่องไม่เกิน 4 ครั้ง แล้วจึงใช้ให้หมด ล้างภาชนะให้สะอาดจึงเริ่มต้นขยายใหม่

 

การทำฮอร์โมนธรรมชาติจากยอดพืช

            วัสดุ

                1. ยอดพืช 4 กก. ยอดยูคาลิปตัส 1 กก. ยอดสะเดา 1 กก.

                2. ถังพลาสติกขนาด 20 ลิตร

                3. จุลินทรีย์อีเอ็ม 200 ซีซี (1 แก้ว)

                4. กากน้ำตาล 200 ซีซี (1 แก้ว)

                5. น้ำสะอาดประมาณ 15 ลิตร

                วิธีทำ

                1. เก็บยอดพืชตอนเช้าตรู่ 6 กก. เช่น ฮอร์โมนใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัว ใช้ยอดผักบุ้ง ยอดพืชตระกูลถั่ว ฯลฯ ฮอร์โมนใช้กับไม้ผล ใช้ยอดมะม่วง ขนุน ฯลฯ ฮอร์โมนใช้ในนาข้าวใช้ยอดหญ้าใบข้าว ใบไผ่ ฯลฯ แล้วนำยอดพืชล้างให้สะอาดบรรจุลงในถัง

                2. เติมอีเอ็มและกากน้ำตาลอย่างละ 1 แก้ว

                3. เติมน้ำสะอาดลงในถังเกือบเต็มให้มีช่องอากาศประมาณ 4 ซม. เอาพลาสติกปิดปากถังแล้วเอายางรัดไม่ให้อากาศเข้า-ออกได้ ปิดปากถังให้การหมักมืดคลุมทับด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์

                4. เมื่อการหมักครบ 10 วัน บรรจุลงขวดประมาณ 1 ลิตรได้ประมาณ 15 ขวด มีอายุการเก็บรักษาได้ 3 เดือน

                วิธีใช้

                1. นำฮอร์โมนยอดพืช 40 ซีซี (4 ช้อนโต๊ะ) ผสมกับน้ำ 20 ลิตร (1 ปิ๊บ) รดฉีดพ่น

                2. ใช้กับพืชผักสวนครัว รดหรือฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

                3. ใช้กับไม้ผล ไม้ยืนต้น รดหรือฉีดพ่นทุกๆ 30 วัน หลังเก็บเกี่ยวช่วงไม้ผลออกดอกห้ามฉีด ไม้ผลที่ดอกยังไม่บานฉีดพ่นได้

                4. ฮอร์โมนที่ดีต้องมีกลิ่นหอมอมเปรี้ยว และมีราสีขาวอยู่ผิวหน้า ถ้าฮอร์โมนมีกลิ่นเหม็นห้ามนำมาใช้กับพืชจะทำให้พืชตายได้

หมายเหตุ:

วัสดุที่ใช้แทนกากน้ำตาล ดังนี้ ใช้แทนกากน้ำตาล 1 ช้อน (กรณีไม่ใช้กากน้ำตาล) เช่น

จุลินทรีย์ 1 ช้อน+น้ำอ้อย 2 ก้อน+น้ำ 10 ลิตร

จุลินทรีย์ 1 ช้อน+น้ำซาวข้าว 4 แก้ว+น้ำ 10 ลิตร

จุลินทรีย์ 1 ช้อน+นมข้นหวาน 2 ช้อน+น้ำ 10 ลิตร

จุลินทรีย์ 1 ช้อน+น้ำเปรี้ยว 2 ช้อน+น้ำ 10 ลิตร

จุลินทรีย์ 1 ช้อน+น้ำปัสสาวะ 1 แก้ว+น้ำ 10 ลิตร

ผลดีจากการใช้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์

                1. ดินโปร่งร่วนซุยใช้ติดต่อกัน 4 ปี หยุดใช้ 1 ปี ใน 5,6,7... ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ลงตามความเหมาะสม

                2. ทำให้ กบ เขียด กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ กลับคืน

                3. ให้ลดปริมาณปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ ลงในปี 3,4 และ 5 ปีละ 15 % ผลผลิตจะคงที่หรือสูงขึ้น

                4. ปัญหาการเกิดโรคของต้นข้าวจะหมดไป ในปีที่ 2,3,4

                5. เกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยได้เอง และลดค่าใช้จ่าย โดยการทำเกษตรแบบยั่งยืน และพึ่งพาตนเองได้

 

การทำโบกาฉิ

                โบกาฉิ หมายถึง การทำปุ๋ยหมักโดยเอาวัสดุที่หาได้จากธรรมชาติหมักด้วยการใช้จุลินทรีย์อีเอ็ม การหมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพเป็นปุ๋ยหมักกองเล็กใช้เวลาหมักไม่เกิน 7 วัน จะได้ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพสูงเพราะคุณลักษณะของจุลินทรีย์จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณสมบัติของปุ๋ยหมักในอดีตเราคุ้นเคยการทำปุ๋ยหมักกองโต ใช้เวลาหมักหลายเดือนคุณสมบัติของอินทรีย์วัตถุที่เหลือ เป็นเพียงกากอินทรีย์วัสถุที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมักกองโตจะมีประสิทธิภาพด้อย เพราะคุณสมบัติของจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถทำได้ 2 อย่าง เช่น โบกาฉิฟางและโบกาฉิมูลสัตว์ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะโบกาฉิมูลสัตว์เท่านั้น

                ปุ๋ยคอก ได้แก่ มูลสัตว์ทุกชนิด เช่น มูลวัว ควาย หมู ไก่ นกกระทา ฯลฯ ซึ่งมูลสัตว์เหล่านี้พบว่ามีกลิ่นเหม็น เป็นเพราะว่าในมูลสัตว์นั้นมีจุลินทรีย์เน่าเปื่อย (เชื้อโรค) อยู่มาก เมื่อนำไปใช้ในการปลูกพืชปุ๋ยคอกแทนที่ปุ๋ยคอกนั้นจะมีประโยชน์อย่างสูงกับพืชปุ๋ยคอกนั้นก็จะเป็นตัวชักนำโรคเข้าสู่ต้นพืช เพราะการทำงานของจุลินทรีย์เน่าเปื่อยที่มีอยู่ในมูลสัตว์ ดังนั้นเพื่อให้ปุ๋ยคอกมีประสิทธิภาพสูงจึงจะต้องหมักด้วยจุลินทรีย์อีเอ็มก่อนพืชจึงจะมีผลผลิตที่มีคุณภาพให้ผลผลิตสูง ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน ดินโปร่งร่วนซุย ดินไม่อัดแน่น รายพืชขยายได้ดี มีมวลสรรพสัตว์มาพึ่งพิงอาศัยอยู่ใต้ดินมากมาย นั่นคือพื้นฐานการทำดินให้มีชีวิตที่พบง่ายด้วยตาเปล่าคือ ไส้เดือน นั่นคือสิ่งชี้ว่าดินเริ่มกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ตามแบบธรรมชาติดั้งเดิมด้วยการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ

                ในอดีตบรรพบุรุษเราเคยนำเอามูลสัตว์ไปใส่ในดินเฉยๆ พืชพันธุ์ธัญญาหารงามอุดมสมบูรณ์ นั่นเพราะว่า   จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพรออยู่ที่ดินก่อนแล้ว เมื่อได้มูลสัตว์ที่เรานำไปใส่ก็จะเข้ามาย่อยขยาย แล้วเร่งผลิตอาหารให้กับพืชต่อไป นั่นคือเกษตรธรรมชาติที่เกษตรกรเคยทำมาแล้วในอดีต

 

การทำโบกาฉิจากมูลสัตว์

                วัสดุ

                มูลสัตว์ (ทุกชนิด)               1              ส่วน       (ปิ๊บ)

                แกลบดิบ                               1             ส่วน       (ปิ๊บ)

                รำละเอียด                            1             ส่วน       (ปิ๊บ)

                อีเอ็ม                                      10           ซีซี          (1 ช้อนโต๊ะ)

                กากน้ำตาล                            10           ซีซี          (1 ช้อนโต๊ะ)

                น้ำสะอาด                              10           ซีซี         

 

 

 

                วิธีทำ

                ขั้นที่ 1 เตรียมอีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด ผสมไว้ในถังในอัตราส่วน 1/1/1,000 คือ น้ำ 10 ลิตร เติมอีเอ็มลง 1 ช้อนโต๊ะ และกากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

                ขั้นที่ 2 นำมูลสัตว์+รำละเอียดผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน

                ขั้นที่ 3 เอาแกลบดิบทั้งหมดลงในน้ำที่ขยายอีเอ็มในขั้นที่ 1 จุ่มให้เปียกแล้วเอาแกลบออกสลัดน้ำที่หยดในแกลบออกพอประมาณ นำมาคลุกในส่วนผสมระหว่างมูลสัตว์+รำละเอียด คลุกส่วนผสมทั้ง 3 ส่วนให้เข้ากันจะได้ความชื้น 50% พอดี

                การหมัก

                เอาส่วนผสมบรรจุลงในกระสอบปุ๋ยโดยบรรจุลงไป 3/4 ของกระสอบปุ๋ยไม่กดให้แน่น และเลือกใช้กระสอบปุ๋ยชนิดที่มีการระบายได้ดีรอบด้าน นำไปวางลงในที่มีฟางรองเพื่อการระบายอากาศในส่วนล่าง พลิกกลับกระสอบในวันที่ 2,3,4 เพื่อเอาด้านบนและข้างลงข้างล่างอยู่ 3 วัน ในวันที่ 4 และวันที่ 5 อุณหภูมิก็จะปกติ ทั้งในระหว่างการหมักควรตรวจดูอุณหภูมิไม่ให้อุณหภูมิเกิน 50 C สามารถนำไปใช้ได้

                การเก็บรักษา

                เก็บรักษาเมื่อโบกาฉิแห้งสนิท ไม่ควรเก็บรักษาในที่ชื้นที่โดนฝนและโดนแดด โบกาฉิสามารถเก็บรักษาได้นานประมาณ 1 ปี ถ้าไม่โดนความชื้น

 

การนำโบกาฉิไปใช้

                โบกาฉิที่หมักด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพจะมีกลิ่นหอมเหมือนเชื้อเห็ด จะมีราเส้นใยสีขาวขัดใยอยู่หนาแน่นพลังประสิทธิภาพของอีเอ็มไม่ทำให้เชื้อโรคแสดงผลออกมาได้

                1. การใช้โบกาฉิกับการปลูกพืช

                                1.1 รองพื้นแปลงปลูก โดยการผสมกับหญ้า ฟาง ซากอินทรีย์วัตถุหรือมูลสัตว์ทุกชนิด ฯลฯ ใช้    โบกาฉิโรยทับในปริมาณ 1-2 กำมือ/1 ตารางเมตร รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม (อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาดในอัตราส่วน 1/1/1,000) ใช้จอบสับให้ส่วนผสมเข้ากันกับดิน ทิ้งให้อีเอ็มขยายปรับความสมดุลของดิน 7 วัน จึงนำพืชมาปลูก

                                1.2 โรยโบกาฉิที่แปลงปลูกพืชผักในปริมาณ 1-2 กำมือ/ตารางเมตร หรือโรยรอบทรงพุ่มของต้นพืชที่ปลูก คลุมทับเศษฟางแห้ง    หญ้าแห้ง เพื่อเป็นการขยายเชื้อของอีเอ็ม

                                1.3 การปลูกพืชที่เก็บผลในระยะสั้นประมาณ 60 วัน ไม่ควรใช้โบกาฉิฟาง ควรใช้โบกาฉิมูลสัตว์ หรือปุ๋ยหมักจะได้ผลรวดเร็วทันความต้องการมากกว่า การใช้โบกาฉิแต่ละครั้งควรใช้ทีละน้อย และใช้บ่อยๆ พืชงามทันใจตามความต้องการ

                2. การใช้โบกาฉิกับการปลูกไม้ผล

                                2.1 รองก้นหลุมไม้ยืนต้น ขุดหลุมลึกประมาณ 60*60*60 ใช้เศษฟาง หญ้าแห้ง กิ่งไม้ มูลสัตว์ ซากวัตถุอินทรีย์อื่น ฯลฯ รองก้นหลุมโรยโกบาฉิ 1-2 กำมือ ผสมกับดินเป็นชั้น ชั้นละประมาณ 10-15 ซม. รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม (อีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด ในอัตราส่วน 1/1/1,000) ใช้จอบสับให้ส่วนผสมให้เข้ากับดิน กลางหลุมใช้โบกาฉิผสมกับหญ้ากองดินให้สูงขึ้นประมาณ 30 ซม. คลุมด้วยฟางแห้ง หญ้าแห้ง รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็ม ทิ้งไว้ให้   อีเอ็มขยายปรับความสมดุลของดิน 10 วัน จึงนำพืชมาปลูก

                                2.2 ใช้โบกาฉิกับไม้ยืนต้นพืชที่ปลูกไว้แล้วหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือต้นฤดูฝนเริ่มใช้โบกาฉิโดยหว่านโบกาฉิรอบทรงของพุ่มไม้ผลในอัตราส่วน 1-2 กำมือ/ตารางเมตร ห้ามโรยโบกาฉิชิด-ติดกับโคนต้น จะทำให้ต้นไม้ตายได้ ถ้าต้นยังเล็กและการหว่านโบกาฉิรอบทรงพุ่มไม้ผลได้อาหารดีคลุมด้วยฟางแห้ง หรือหญ้าแห้งให้มากๆ รอบทรงพุ่มรดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็มในอัตราส่วนเหมือนข้อ 2.1 การใช้โบกาฉิกับไม้ผลให้ใช้ปีละ 2-3 ครั้ง เช่น หลังจากเก็บเกี่ยวของไม้ผลแต่ละประเภทหรืออาจจะใช้ในช่วงฤดูฝน ดังนี้

                                ต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ควรใส่โบกาฉิในปริมาณค่อนข้างมาก

                                กลางฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อาจใช้เท่ากับช่วงต้นฤดูฝนหรือน้อยลงก็ได้

                                ปลายฤดูฝน ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ถ้าใส่โบกาฉิมากมาแล้วในช่วงแรกๆ หรือถ้ามีฟาง-หญ้าคลุมให้มากไม่ต้องใส่โบกาฉิอีกก็ได้ อาจใช้เฉพาะมูลสัตว์อย่างเดียวก็ได้เพราะเชื้ออีเอ็มมีอยู่บ้างแล้ว

 

การทำปุ๋ยหมัก 24 ชั่วโมง

                วัสดุ

                ฟางแห้ง หญ้าแห้ง ใบไม้ ฯลฯ                        10           ส่วน

                โบกาฉิ                                                                   1              ส่วน

                รำละเอียด                                                             2              ส่วน (1 ปิ๊บ)

                อีเอ็ม                                                                      10           ซีซี (1 ช้อนโต๊ะ)

                กากน้ำตาล                                                            10           ซีซี (1 ช้อนโต๊ะ)

                น้ำสะอาด                                                              10           ลิตร

                วิธีทำ

                ขั้นที่ 1 เตรียมอีเอ็ม/กากน้ำตาล/น้ำสะอาด ผสมไว้ในถังในอัตราส่วน 1/1/1,000 คือ น้ำ  10  ลิตรเติม              อีเอ็มลง 1 ช้อนโต๊ะ และกากน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ    

                ขั้นที่ 2 เอาโบกาฉิ+รำละเอียด ผสมคลุกให้เข้ากัน รดด้วยน้ำที่ขยายอีเอ็มพอหมาดๆ ความชื้นประมาณ 40%

                ขั้นที่ 3 นำฟางแห้งหรือหญ้าแห้ง จุ่มลงในน้ำที่ขยายอีเอ็มไปกองไว้ โรยด้วยโบกาฉิ+รำละเอียดคลุกให้ส่วนผสมเข้ากันทุกส่วน กองให้สูงจากพื้นดินประมาณ 1 ฟุต  คลุมด้วยกระสอบป่าน

                ขั้นที่ 4 หลังจากการหมักผ่านไปแล้ว 18 ชั่วโมง กลับกองปุ๋ยหมักคลุมด้วยกระสอบไว้เหมือนเดิม เมื่อครบเวลา 24 ชั่วโมง สามารถนำไปใช้ได้

                ประโยชน์ของการขยายปุ๋ยหมัก 24 ชั่วโมง

                1. ประหยัดต้นทุนในการทำปุ๋ยหมัก สามารถเพิ่มปริมาณในการทำปุ๋ยให้ได้มากๆ ในเวลาเพียง 24 ชม.

                2. ประหยัดเวลาและแรงงาน ซึ่งปกติเคยทำปุ๋ยหมักเป็นเวลา 60 วัน เป็นอย่างต่ำเมื่อใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพแล้ว จะประหยัดทั้งเวลาและแรงงานและยังได้ปุ๋ยหมักที่มีประสิทธิภาพสูง ในเพียงเวลา 24 ชม.

                3. เมื่อครบ 24 ชั่วโมงแล้ว สามารถขยายเชื้อต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด คือใช้ปุ๋ยหมัก 24 ชม. เพียง 1 ส่วนไปต่อเชื้อไปเรื่อยๆ เหมือนวิธีการเริ่มต้นทำตั้งแต่ขั้น 1-4

                4. นำไปใช้ได้เหมือนโบกาฉิทั่วๆ ไป ควรนำไปใช้ในการเพาะปลูกพืชระยะยาว เช่น คลุมโคนต้นไม้ผล คลุมแปลงปลูกพืชผัก โปรยหว่านในนาข้าว รองก้นหลุมไม้ผลหรือรองพื้นแปลงผัก

                5. ขยายหว่านในแปลงพืชเพาะปลูกขนาดใหญ่ เช่น นาข้าว ไร่มัน ไร่ปอ ไร่ข้าวโพด ฯลฯ เพราะสามารถขยายทำปุ๋ยในแปลงขนาด 10-10,000 ไร่ ในเวลาที่สั้น

                6. หาวัสดุง่ายในพื้นที่ เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด ใบไม้ หญ้าแห้ง ฯลฯ สามารถนำวัสดุในพื้นที่เพาะปลูก ขยายทำปุ๋ยหมักในเวลา 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ทำการเกษตร

                7. ไม่ยุ่งยากในการทำโรงเรือน ปัญหาการเก็บรักษา เพราะทำปุ๋ยหมักในสถานที่ที่ทำการเพาะปลูก และนำไปใช้ได้ทันที

หมายเหตุ:

วัสดุที่ใส่แทนรำละเอียด

1. ฝุ่นซังข้าวโพด                                2. มันสำปะหลัง

3. คายข้าว (จำนวนข้าว                      4. กากข้าวมะพร้าว ฯลฯ

วัสดุที่ใส่แทนแกลบ

1. ใบไม้                                 2. ขี้เลื่อย                                               3. ไม้ผุ

4. ฟางข้าว                            5. ซังข้าวโพด ฯลฯ

 

 

Today, there have been 10 visitors (11 hits) on this page!
This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free